บลูเบอร์รี่ & บิลเบอร์รี่

บลูเบอร์รี่ & บิลเบอร์รี่

บลูเบอร์รี่เป็นอาหารโปรดของคนอเมริกาเหนือมาช้านานซึ่งมีคล้ายกับบิลเบอร์รี่ในฝั่งยุโรป ซึ่งทั้ง 2 เบอร์รี่นี้ มีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกัน แต่จะมีตัวนึงที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่า หมายความว่าหากทานในปริมาณที่เท่ากันจะมีอันนึงที่ให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่านั้นเอง บลูเบอร์รี่และบิลเบอร์รี่ มีแอนโทไซนานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มความประสิทธิภาพในการมองเห็น และเพิ่มสีสันสดใสให้ดวงตาได้

เนื่องจากผลไม้ทั้งสองชนิดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจนำไปใช้ในสภาวะที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม ยาพื้นบ้านใช้บิลเบอร์รี่บ่อยกว่าสำหรับปัญหาสายตา การไหลเวียนของเลือด และอาการท้องร่วง ในขณะที่บลูเบอร์รี่เหมาะสำหรับกลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้อรังการทำงานของการรับรู้ และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

ประโยชน์ของสารแอนโทไซยานิน
  • ช่วยเพิ่มการมองเห็นตอนกลางคืน ลดอาการตาบอดตอนกลางคืน
  • ปรับภาพจากที่มืดให้สว่างได้เร็วขึ้น
  • เพิ่มการมองเป็นและคมชัดได้
  • ป้องกัน ต้อกระจก และ จอประสาทตาเสื่อม ได้
  • เพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด
  • ลดการอักเสบต่างๆ

According to the data, bilberry contains higher anthocyanin than blueberry, which is an antioxidant that helps take care of the eyes better, comparable to 100 grams.
Bilberry is a source of anthocyanins. By giving berries 300-700 mg per 100 g.
Blueberries are a great source of anthocyanins. By providing 82.4 mg of berries per 100 g.

หากต้องการกินเบอร์รี่สดๆ สามารถทานอันไหนก็ได้ แต่ถ้าต้องการเรื่องสรรพคุณ คุณค่าทานอาหารที่มากกว่า บิลเบอร์รี่ อาจจะตอบโจทย์มากกว่าในปริมาณการทาน เพื่อช่วยให้บำรุงสายตา และป้องกันสายตาได้นั้นเอง แต่หากเราไม่สามารถหาทานได้ทุกวันหรือบ่อยๆ ได้ เพราะว่าผลไม้นำเข้าค่อนข้างมีราคาสูง ก็แนะนำให้ทานอาหารเสริมที่มีสารสำคัญจากกลุ่มแอนโทไซยานินแทนก็ได้ เพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าจากแสงสีฟ้า ช่วยให้มองเห็นในที่มืด รวมทั้งป้องกันจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจกได้นั้นเอง

Shopping Cart
Scroll to Top